กลุ่มสัตว์ทดลอง
ติดต่อ : 0 2579 8914
email :
ภารกิจ
- ศึกษา วิจัย ค้นคว้า และควบคุมคุณภาพของสัตว์ทดลองให้ตรงตามมาตรฐานสากล
- ผลิต จัดหาสัตว์ทดลองที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อการวิจัย วินิจฉัย และชันสูตรโรคสัตว์
- ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ ป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ใช้ในการศึกษา วิจัย วินิจฉัย และชันสูตรโรคสัตว์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง
- ให้คำปรึกษา แนะนำ และถ่ายทอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับการดูแลและการปฏิบัติกับสัตว์ทดลอง
หน้าที่ ความรับผิดชอบ
เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ยกฐานะมาจากงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง กองวิชาการ เมื่อปี พ.ศ. 2529 มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้
- เพาะพันธุ์สัตว์ทดลอง ได้แก่ หนูไมซ์ (mice) หนูแร้ท (rat) หนูตะเภา (guinea pig)
- จัดหาสัตว์ทดลองให้แก่นักวิจัย เช่น ไก่ เป็ด กระต่าย แพะ แกะ สุกร ม้า เป็นต้น
- เลี้ยงสัตว์ทดลองให้มีสุขลักษณะที่ดี มิให้มีการติดเชื้อชนิดอื่น ที่ไม่ได้ทำการฉีดเชื้อให้แก่หน่วยงานต่างๆ ของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ เพื่องานวิจัย งานทดลอง และชันสูตร

ว่าง
นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ
หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทดลอง

นายสุรพงษ์ กองนาค
สัตวแพทย์ชำนาญงาน

นางสาวสาวิตรี ล้านศรี
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์

นายณัฐพล ขันธพร
เจ้าพนักงานธุรการ

นางสาวจินห์นิภา คำพล
คนงานห้องทดลอง

นายชาญสิทธิ์ เพียรทนงกิจ
พนักงานผู้ช่วยปศุสัตว์
การแบ่งอาคารเลี้ยงสัตว์ทดลอง
1. Laboratory unit เป็นอาคารเลี้ยงสัตว์ทดลองที่เพาะพันธุ์ ได้แก่ rat, guinea pig, Inbred mice, Outbred mice และมีห้องสำหรับกักโรค เมื่อนำสัตว์ทดลองจากแหล่งอื่นมาทำการกักโรค มีห้องต่างๆ ดังนี้ ได้แก่
- Animal room 1 เลี้ยง Rabbit
- Animal room 2 เลี้ยง Rat
- Animal room 3 เลี้ยง Guinea pig
- Animal room 4 เลี้ยง Outbred mice
- Animal room 5 เลี้ยง Inbred mice
- Quarantine 1 และ Quarantine 2 เป็นห้องกักกันโรค
2. Isolation unit เป็นอาคารสำหรับเลี้ยงสัตว์ทดลองที่กำลังทดลอง เช่น การฉีดเชื้อพิษ การวิจัยโรคสัตว์ การทดลองวัคซีนของสัตว์ เป็นต้น แบ่งเป็นห้องต่างๆ ในอาคารนี้ คือ
- Animal room 10 สำหรับเลี้ยงสัตว์ทดลองเล็ก เช่น mice, rat, rabbit, guinea pig
- Animal room 11 สำหรับเลี้ยง ไก่ เป็ด
- Animal room 12 สำหรับเลี้ยงสัตว์ทดลองที่ฉีดเชื้อ ที่มีความรุนแรงมาก ภายในมี Isolator ที่กรองเชื้อต่างๆ ไม่ให้เข้า-ออก มาภายนอกได้
- Pen 1 และ Pen 2 เลี้ยงสุกร โค
- Pen 3 และ Pen 4 เป็นโรงเรือนเปิด มีมุ้งลวด ใช้ทดลองสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยมีแมลงเป็นตัวนำ เช่น Babasia ,Arthropod, born ,disease, และอื่นๆ เป็นต้น
3. poultry Unit เป็นอาคารเลี้ยงสัตว์ทดลอง สำหรับฉีดเชื้อพิษของไก่ ได้แก่
- Animal room 6, 7, 8, 9
ระบบป้องกันการติดเชื้อและระบบอื่นๆ
1. อาคารทั้งหมด เป็นระบบปรับอากาศชนิดปิด ระมีระบบป้องกันการติดเชื้อ เข้า - ออกโดยใช้ความดัน ( pressure ) โดยมีประตูสองชั้น มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า รองเท้า และน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อจุ่มเช็ดเท้า ความดันอากาศในแต่ละอาคาร จะมีลักษณะ ดังนี้
- อาคารปลอดเชื้อ ( Laboratory Unit ) ความดันภายในจะมากกว่าภายนอก ป้องกันเชื้อภายนอก เข้าสู่ภายใน
- อาคารเชื้อพิษ ( Isolation Unit ) ความดันภายนอก จะมากกว่าความดันภายใน ป้องกันเชื้อภายใน ออกมาภายนอก
2. อาคาร Isolation Unit และ Laboratory Unit มีระบบการกรองอากาศ เข้า - ออก โดยใช้ pre filter และ hepa filter สามารถกรองเชื้อได้ถึง 99.97%
3. ระบบบำบัดน้ำเสีย ของทั้งอาคาร ตึกปฎิบัติการ และอาคารเลี้ยงสัตว์ทดลอง จะทำการบำบัดน้ำเสียก่อนลงบ่อระบายน้ำทิ้ง
4. ระบบไฟฟ้า - ประปา ระบบไฟฟ้าเป็นระบบเดินสายไฟใต้อาคาร สำหรับระบบประปา แบ่งออกเป็น น้ำกรอง, น้ำกลั่น, สำหรับให้สัตว์ทดลองกิน และล้างคอกสัตว์ จ่ายจากห้องทำน้ำบริสุทธิ์ การทำให้น้ำในอาคาร Laboratory Unit จะเป็นระบบท่อทั้งหมด ยกเว้น อาคาร Isolation Unit จะใช้ภาชนะใส่น้ำ - อาหาร
ระบบการเลี้ยงสัตว์ทดลอง
1. เลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์ Outbred mice มีดังนี้ ผสมคัดทิ้งพ่อพันธุ์ + แม่พันธุ์ คละพันธุ์ ผสมพันธุ์รุ่นต่อไป ส่งทดลอง เก็บไว้เป็นพ่อ - แม่พันธุ์
2. Inbred mice เป็นหนู mice ที่ผสม ระหว่าพี่น้องกันเอง เพื่อใช้ในการทดลองบางชนิด เช่น Monoclonal Antibody เป็นต้น
3. Guinea-Pig เลี้ยงอยู่ด้วยกันตลอด ระหว่าง ตัวผู้ 1 ตัว ตัวเมีย 2 ตัว
4. Rat จะผสม 1 : 2
ชนิดของสัตว์ทดลองที่นำไปใช้
1. Mice ส่วนมากใช้กับการทดลองเบื้องต้น หรือใช้แทนสัตว์ใหญ่ เช่น การใช้หนู Mice ฉีด
ทดสอบSafety test , potency test , ของวัคซีนเฮโมรายิกเซพติคซีเมีย ซึ่งถ้าใช้สัตว์ใหญ่จะเป็นการสิ้นเปลืองมากกว่า การใช้ชันสูตรโรค เช่น การชันสูตรโรคพิษสุนัขบ้า เป็นต้น
2. Rat คล้ายกับ Mice
3. Rabbit ใช้ทดสอบโรคพิษสุนัขบ้าเทียม, ใช้ผลิตวัคซีน ใช้ทำ Antibody ต่อเชื้อต่างๆ เป็นต้น
4. Cattle , Swine, Horse จะใช้ก็ต่อเมื่อเชื้อที่ทดสอบนั้นไม่สามารถใช้สัตว์ทดลองเล็กแทนได้ หรือผู้ วิจัยอยากจะทดลองในสัตว์เป้าหมาย เช่น โรคอหิวาต์สุกรก็ใช้สุกรในการทดลอง เป็นต้น
จรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง
จรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลองเป็นหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติสำหรับผู้ใช้สัตว์ ผู้เลี้ยงสัตว์เพื่องานวิจัย งานทดสอบ งานสอนและงานผลิตชีววัตถุ ในเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกสาขา เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีมาตรฐานโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม คุณธรรม มนุษยธรรมและหลักวิชาการที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ผลงานเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
1. หลักเกณฑ์พื้นฐานสำหรับจรรยาบรรณการใช้สัตว์
1.1 ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตสัตว์ ผู้ใช้สัตว์ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
ว่าเป็นประโยชน์และจำเป็นสูงสุดต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์และสัตว์
1.2 ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักว่าสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ สัตว์มีความรู้สึกเจ็บ
ปวดและมีความรู้สึกตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม เช่นเดียวกับมนุษย์จึงต้องปฏิบัตอต่อสัตว์ด้วยความระมัดระวังทุกขั้นตอนนับตั้งแต่การขนส่ง การใช้วัสดุอุปกรณ์ในการเลี้ยงสัตว์ การจัดสภาพแวดล้อมของสถานที่เลี้ยง เทคนิคในการเลี้ยง และการปฏิบัติต่อสัตว์ โดยไม่ให้สัตว์ได้รับความเจ็บปวด ความเครียดหรือความทุกข์ทรมาน
1.3 การใช้สัตว์ป่าต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและนโยบายการอนุรักษ์สัตว์ป่า การนำสัตว์
ป่ามาใช้ ควรกระทำเฉพาะกรณีที่มีความจำเป็นต่อการศึกษาวิจัย โดยไม่สามารถใช้สัตว์ชนิดอื่นทดแทนได้ และการใช้สัตว์ป่านั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและนโยบายการอนุรักษ์สัตว์ป่า
1.4 ผู้ใช้สัตว์ต้องตระหนักถึงความแม่นยำของผลงาน โดยใช้สัตว์จำนวนน้อยที่สุด
ผู้ใช้สัตว์ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติทางพันธุกรรมของสัตว์ที่จะนำมาใช้ให้สอดคล้องกับวุตถุประสงค์การใช้สัตว์
1.5 ผู้ใช้สัตว์ต้องบันทึกข้อมูลการปฏิบัติต่อสัตว์ไว้เป็นหลักฐานอย่างครบถ้วน
ผู้ใช้สัตว์ต้องปฏิบัติต่อสัตว์ตามวิธีการที่เสนอในโครงการ และต้องจดบันทึกไว้เป็นหลักฐานอย่างละเอียด ครบถ้วน พร้อมที่จะเปิดเผยและชี้แจงทุกโอกาส
หลักการปฏิบัติต่อสัตว์ที่เรียกว่า "The Three R's Methods" (3R) มีดังนี้
1. การทดแทนสัตว์ทดลองด้วยวิธีการอื่น (Replacement)
2. การใช้สัตว์ทดลองในจำนวนที่เหมาะสม (Reduction)
3. การใช้เทคนิคและวิธีการที่ปฏิบัติต่อสัตว์อย่างเหมาะสม (Refinement)
สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงสัตว์ทดลอง
1. อุณหภูมิ (Temperature) อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 22-25 ๐C ในกรณีที่มีการเลี้ยงสัตว์ทดลองที่มีอายุน้อยๆ จะมีการให้ความอบอุ่นโดยการกกไฟ
2. การถ่ายเทอากาศ (Ventilation) มีผลต่อการถ่ายเทของเสียออกจากห้องเลี้ยงสัตว์ทดลอง ของเสียที่เกิดขึ้นในห้องเลี้ยงสัตว์ทดลองได้แก่ CO2 และก๊าซแอมโมเนียจากการขับถ่ายปัสสาวะ การจัดการเกี่ยวกับการถ่ายเทอากาศควรคำนึงถึงชนิดสัตว์ อายุ เพศ ความหนาแน่นของจำนวนสัตว์ และการทำความสะอาด
3. แสง (Light) สัตว์ทดลองส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่พัฒนามาจากสัตว์ที่ออกหากินในตอนกลาง
คืน ดังนั้นจึงมีความสามารถในการปรับเข้าแสงสลัวได้ดี แสงมีผลต่อการกินอาหารของสัตว์ทดลอง แสงกระตุ้นให้เกิดวงจรการเป็นสัด ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตทั้งสิ้น ระยะเวลาที่ให้แสงที่เหมาะสมคือ สว่าง 12 ชั่วโมง และมืด 12 ชั่วโมง
4. เสียง (Noise) การตกใจของสัตว์มีผลทำให้สัตว์เครียด ความดัน ตลอดจนฮอร์โมนและพฤติกรรมต่างๆ ดังนั้นการปฏิบัติงานในห้องเลี้ยงสัตว์และการปฏิบัติต่อสัตว์จึงต้องให้ความระมัดระวังและนุ่มนวลที่สุด
5. วัสดุรองนอน (Bedding) ควรจะผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ไม่เป็นอาหารสัตว์ และไม่มียางซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อสัตว์ทดลองได้ วัสดุรองนอนต้องเปลี่ยนตามเวลาที่เหมาะสมด้วย
6. ความหนาแน่นของสัตว์ทดลอง (Population Density) มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะจิตใจ โดยมีผลกระทบต่อผลผลิต การเจริญเติบโตและพฤติกรรม การให้สัตว์อยู่อย่างแออัดมีผลต่อการกินอาหาร และถ้าให้อยู่เดี่ยวๆ อาจมีผลต่อความก้าวร้าวได้ ในการเลี้ยงสัตว์ทดลองจะมีการกำหนดด้วยว่าพื้นที่สัตว์กี่ตัวต่อจำนวนพื้นที่เท่าใดขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ทดลอง
แนวทางการปฏิบัติในการเลี้ยงสัตว์ทดลองที่ถูกต้อง มีคุณภาพและไม่ขัดต่อจรรยาบรรณการใช้สัตว์ทดลอง
1. การขนส่งสัตว์ การขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ จะต้องให้สัตว์ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด โดยมีการควบคุมอุณหภูมิ ระบบระบายอากาศ ระบบป้องการติดเชื้อ ภาชนะที่แข็งแรง มั่นคงป้องกันสัตว์หลบหนีได้ มีพื้นที่สำหรับให้สัตว์เคลื่อนไหวได้ตามมาตรฐานสากล
2. การจัดสภาพแวดล้อมของสถานที่เลี้ยงสัตว์ ระบบระบายอากาศ อุณหภูมิ แสง เสียง ความหนาแน่น และอื่นๆ
3. วัสดุอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์
3.1 กรง หรือคอกเลี้ยงสัตว์ ต้องแข็งแรง ป้องกันสัตว์หลบหนีได้
3.2 วัสดุรองนอน เหมาะสม ไม่มีพิษ เชื้อโรค และไม่เปื่อยยุ่ย
3.3 อาหารและน้ำต้องเพียงพอ มีสารอาหารแร่ธาตุครบถ้วน ตามแต่ละชนิดสัตว์ และ
ปราศจากเชื้อโรค เชื้อราที่มากับอาหารที่เกิดจากความชื้น อาหารสัตว์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีอายุแค่ 3 เดือน ซึ่งถ้าพ้นวันหมดอายุแล้ว อาจเกิดเชื้อราขึ้นและเป็นอันตรายต่อสัตว์ ซึ่งมีผลต่องานวิจัยทำให้ผิดพลาดได้
4. การจัดการ
4.1 กลุ่มงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง ต้องมีสัตวแพทย์ หรือนักวิชาการที่มีความรู้และประสบ
การณ์ด้านสัตว์ทดลอง และมีพนักงานเลี้ยงสัตว์ทดลองที่ผ่านการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน
4.2 กลุ่มงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง ต้องมีข้อมูลแหล่งที่มาของวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยง
สัตว์ การป้องกันสัตว์ติดเชื้อ พร้อมทั้งอุปกรณ์สำรอง การซ่อมบำรุง โดยได้รับงบประมาณในการดำเนินการดังกล่าวอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง
4.3 กลุ่มงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง ต้องมีเทคนิคในการจับบังคับสัตว์ การทำเครื่องหมาย
บนตัวสัตว์ การแยกเพศ การเก็บตัวอย่างเลือด อุจจาระ ปัสสาวะ ชิ้นเนื้อ การทำให้สัตว์สงบ การทำให้สัตว์ตายอย่างสงบ ตามมาตรฐานสากลกำหนด
4.4 กลุ่มงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง จะต้องกำจัดซากสัตว์ทุกชนิดด้วยวิธีการเผาเท่านั้น และต้องกำจัดสิ่งปฏิกูลอย่างถูกต้องและเหมาะสม
4.5 กลุ่มงานเลี้ยงสัตว์ทดลอง ต้องมีการบันทึกการปฏิบัติต่อสัตว์อย่างครบถ้วนทุกครั้ง
4.6 ผู้ใช้สัตว์ต้องดำเนินการตามวิธีการที่เสนอไว้ในโครงการอย่างเคร่งครัด
ในปัจจุบันสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการเลี้ยงและการใช้สัตว์เพื่องานวิจัย งานทดสอบ งานผลิตชีววัตถุ และงานสอน โดยมีหน้าที่ดังนี้
1. กำหนดรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติในการใช้และเลี้ยงสัตว์ของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
2. พิจารณาโครงการที่มีการใช้สัตว์ของบุคคลภายในสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
3. ติดตามกำกับดูแลให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานตามที่เสนอไว้ในโครงการ
4. จัดการให้หน่วยงานเลี้ยงสัตว์ดำเนินการให้ได้มาตรฐานที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณการใช้สัตว์
5. สนับสนุนให้หน่วยงานเลี้ยงสัตว์ได้รับงบประมาณเพียงพอในการดำเนินการ
6. จัดให้มีการสอน การอบรม การประชุมทางวิชาการ เพื่อเพิ่มพูนความรู้แก่คณะกรรมการ ผู้เลี้ยง และผู้ใช้สัตว์ของสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมปศุสัตว์