พยาธิไส้เดือนในโค-กระบือ

         พยาธิไส้เดือนเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการเพิ่มผลผลิตโคและกระบือ โรคนี้มีผลรุนแรงต่อลูกกระบือ เพราะมีอัตราการตายสูงถึง 60% และในเกษตรกรรายย่อยบางรายอาจพบว่าลูกกระบือที่เกิดมาทั้งหมดตายด้วยโรคพยาธิไส้เดือน (อัตราการตาย 100%)สาเหตุ
เกิดจากพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายไส้เดือน จึงเรียกกันทั่วไปว่า “พยาธิไส้เดือน” พบอยู่ในบริเวณส่วนต้นของลำไส้เล็กการติดต่อ
ลูกกระบือส่วนใหญ่จะได้รับพยาธิตัวอ่อนในขณะที่แม่กระบือตั้งท้อง โดยผ่านทางสายรก นอกจากนี้ลูกกระบือหลังคลอดยังอาจติดต่อโดยการดื่มน้ำนมจากแม่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแม่กระบือเป็นตัวการสำคัญในการแพร่โรคพยาธิไส้เดือนไปยังลูก ทั้งนี้แม่กระบือจะได้รับไข่พยาธิเมื่อกินหญ้าหรือน้ำในทุ่งหญ้าที่ปนเปื้อนไข่พยาธิที่ออกมากับอุจจาระของลูกกระบือป่วยอาการ
ลูกกระบือที่เป็นโรคพยาธิไส้เดือนจะมีอาการซูบผอมแคระแกร็น ขนหยองและหยาบกร้าน เบื่ออาหาร ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ โดยแสดงอาการท้องผูก อุจจาระมีลักษณะเหนียว สีขาวปนเทา กลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นกลิ่นของโรคนี้โดยเฉพาะลูกกระบือจะแสดงอาการเบ่งถ่ายอุจจาระลำบาก ในรายที่มีพยาธิไส้เดือนจำนวนมาก จะทำให้ไม่สามารถถ่ายอุจจาระออกมาได้ และอาจมีพยาธิไส้เดือนออกมาแทนบริเวณท้องจะโป่งออก มีลักษณะกลมเห็นได้ชัด ระยะนี้ลูกกระบือจะไม่สามารถกินอาหารน้ำหรือน้ำนมได้เลย ถึงแม้จะพยายามกินก็จะอาเจียนออกมาหมดจนถึงขั้นล้มลงและตายในที่สุด
สาเหตุที่ทำให้ลูกกระบือตายด้วยโรคพยาธิไส้เดือนส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากการอุดตันของระบบทางเดินอาหารบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้อาหารและน้ำไม่สามารถผ่านไปได้ หรือบางรายอาจเกิดจากการที่พยาธิไส้เดือนไชทะลุผนังลำไส้เข้าไปในช่องท้องและทำให้เกิดโรคช่องท้องอักเสบตามมาการตรวจซาก
จากการตรวจซากลูกกระบือที่ตายด้วยโรคพยาธิไส้เดือน พบว่าบริเวณส่วนต้นของลำไส้เล็กที่ติดกับกระเพาะจะมีพยาธิไส้เดือนตัวแก่อัดแน่น เรียงขนานตามความยาวของลำไส้ ทำให้ลำไส้เล็กบริเวณนั้นมีขนาดใหญ่กว่าลำไส้เล็กส่วนอื่นๆ ประมาณ 3 ถึง 4 เท่า ส่วนผนังด้านนอกของลำไส้เล็กบางแห่งจะโป่งออก มีลักษณะบางใสมากเนื่องจากพยาธิจะพยายามไชทะลุออกไป บางรายจึงอาจตรวจพบพยาธิไส้เดือนในกระเพาะ ท่อน้ำดี ถุงน้ำดี หรือในช่องท้องการป้องกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมป้องกันโรคพยาธิไส้เดือนคือ การป้องกันไม่ให้พยาธิตัวอ่อนเจริญเติบโตเป็นพยาธิตัวแก่ในลูกกระบือ ซึ่งจะช่วยตัดวงจรที่จะเกิดไข่พยาธิต่อไปโดยให้ยาถ่ายพยาธิแก่ลูกกระบือที่มีอายุ 10-16 วัน ยาถ่ายพยาธิที่ใช้ในการกำจัดพยาธิไส้เดือนตัวอ่อนในลูกกระบือในประเทศไทย ที่มีการทดลองว่าใช้ได้ผลดี คือยาถ่ายพยาธิไทโอฟาเนท ใช้ขนาด 50 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัมการรักษา
ควรให้ยาถ่ายพยาธิแก่ลูกกระบือเมื่อเริ่มแสดงอาการป่วยให้เห็นหรือเมื่อลูกกระบือมีอายุประมาณ 1 เดือน ยาถ่ายพยาธิที่ใช้ในการรักษาโรคพยาธิไส้เดือนในประเทศไทย ซึ่งได้มีการทดลองว่าได้ผลดี มีดังนี้
1. ยาถ่ายพยาธิปิบเปอราซีน เช่น ปิบเปอราซีนซิเตรท ใช้ขนาด 220 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
2. ยาถ่ายพยาธิไพแรนเท็ล ทาร์เทรท ใช้ขนาด 5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
3. ยาถ่ายพยาธิเตทตร้ามิโซล ใช้ขนาด 7.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
4. ยาถ่ายพยาธิเฟแบนเท็ล ใช้ขนาด 5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
5. ยาถ่ายพยาธิเฟนเบนดาโซล ใช้ขนาด 7.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
6. ยาถ่ายพยาธิไอเวอร์เมคทิน ใช้ขนาด 0.2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม
7. ยาถ่ายพยาธิไทโอฟาเนท ใช้ขนาด 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวสัตว์ 1 กิโลกรัม


ที่มา
ทัศนีย์ ชมภูจันทร์, มนัสนันนท์ ประสิทธิรัตน์ และมนยา เอกทัตร์ (บรรณาธิการ). 2539. คู่มือการดูแลสุขภาพโคนม" สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ. ฟันนี่พับบลิชิ่ง.
ทัศนีย์ ชมภูจันทร์, สุรีย์ ธรรมศาสตร์, ปนันท์ ธนเจริญวัชร, จิรา คงครอง และเอกรินทร์ วัฒนพลาชัยกูร (บรรณาธิการ). 2539. คู่มือมาตรฐานการชันสูตรโรคสัตว์. สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ.โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.