โรคปากอักเสบพุพอง (Vesicular stomatitis , VS, A 020 )
โรคปากอักเสบพุพองเกิดจากเชื้อไวรัส (family Rhabdoviridae , genus Vesiculovirus ) มี 2 serotypes ใหญ่คือ New Jersey และ Indiana อาจมีระยะฟักตัวนานถึง 21 วันทำให้เกิดโรคคล้ายกับโรคปากและเท้าเปื่อย (ซึ่งม้าไม่เป็น) กับสัตว์ในตระกูลม้า โค สุกร กวาง (white-tailed deer) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กหลายชนิดในเขตร้อน และบางครั้งคนด้วย (minor zoonosis ) อัตราการเกิดโรคในฝูงสูงถึง 90% แต่มีอัตราการตายที่ต่ำ เชื้อไวรัสถูกแพร่กระจายโดยแมลง เช่น Phlebotomus, Aedes spp . และผ่านเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังหรือเยื่อชุ่ม ในเขตร้อนพบโรคมากช่วงฤดูฝนและในเขตหนาวโรคจะหายไปเมื่อเกิดน้ำแข็งพบโรคแต่ที่ทวีปอเมริกา น้ำลาย เยื่อบุผิวและน้ำจากตุ่มพุพองที่แตกออกจะเป็นแหล่งของเชื้อไวรัสเช่นเดียวกับแมลงพาหะสงสัยว่าดินและพืชอาจเป็นที่อยู่ของเชื้อไวรัสได้เชื้อมีชีวิตอยู่ได้นานที่อุณหภูมิต่ำ และถูกทำลายได้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคฟอร์มาลิน 1%นิยามในการเฝ้าระวังโรค (Case Definition for Surveillance)
1. เกณฑ์ทางคลินิก (Clinical Criteria)
- มีน้ำลายไหลออกมาก
- ปากมีตุ่มพุพองหลายขนาด
- ม้า พบที่ด้านบนของลิ้น ริมฝีปาก รอบจมูก มุมปากและเหงือก
- โค พบที่ลิ้น ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก บางครั้งพบรอบปากและจมูก
- สุกร พบที่จมูก (snout )
- บางครั้งพบวิการตุ่มพุพองที่เท้าของม้า หรือโค
- โคนมพบวิการที่หัวนม (teat lesions)
- สุกรมักพบวิการที่เท้าทำให้เจ็บเดินลำบาก (lameness)
- สัตว์หายป่วยใน 2 สัปดาห์
- อาการแทรกซ้อนในโคนม น้ำนมจะลดและเต้านมเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อในภายหลัง ส่วนม้าอาจจะขาเจ็บ
2. เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory criteria)
2.1 วิการ (Lesions)
พบตุ่มพุพองเกิดเฉพาะกับเยื่อบุของที่ปาก หัวนม และเท้า
2.2 โรคนี้มีการตรวจสอบได้หลายวิธี คือ
- Virus isolation ฉีดเชื้อในไข่ไก่ฟัก หนู mice หรือ tissue culture system (chick fibroblast, pig kidney,BHK-21,Vero) ที่ footpad ของหนูตะเภา ในตัวม้า โค หรือที่จมูกสุกร โดยการเก็บเยื่อบุของตุ่มพุพองแช่แข็ง หรือใน buffered glycerine
- Serological diagnosis ด้วยวิธี Virus neutralization, ELISA, Compliment fixation โดยการเก็บซีรั่ม 2 ครั้งขณะที่สัตว์ป่วยและเมื่อหายป่วย (paired acute & convalescent serum samples)
ข้อมูล :: กลุ่มระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์ สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Reference / แหล่งที่มาข้อมูล : OIE Technical Disease Card (updated : 22.04.2002)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมปศุสัตว์