โรคนิวคาสเซิล (Newcastle disease)

สาเหตุ
เกิดจากเชื้อ Paramyxovirus พวก RNA virus มีหลายสเตรนแยกเป็นชนิดรุนแรง ชนิดรุนแรงปานกลาง และชนิดไม่รุนแรง มีระยะฟักตัว 4 - 6 วัน เชื้อทนต่ออุณหภูมิห้องได้ดีและอยู่ได้นานในอุจจาระ อัตราการเกิดโรคและการตายจะขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ปีกและสเตรนของเชื้อไวรัส ไก่ติดโรคได้ง่ายที่สุดส่วน เป็ดและห่านจะค่อนข้างทนต่อโรค อาจพบสภาพการเป็นพาหะของโรคในนกป่าบางชนิดรวมทั้งนกในตระกูลนกแก้ว การติดโรคเกิดจากสัมผัสโดยตรงกับสิ่งขับถ่ายจากสัตว์ป่วยโดยเฉพาะอุจจาระ อาหาร น้ำ เครื่องมือเครื่องใช้ โรงเรือน เสื้อผ้า น้ำมูก อุจจาระ ซากสัตว์ปีก เป็นแหล่งที่พบเชื้อไวรัสซึ่งจะถูกขับออกมาในระยะฟักตัวและในสัตว์ที่กำลังหายป่วย และนกแก้วบางชนิดจะมีการขับเชื้อไวรัสเป็นระยะๆนานกว่าปี โรคนี้ไม่มีวิธีการรักษา ควรทำลายสัตว์ป่วยและสัตว์ที่สัมผัสโรคทุกตัว ทำการกำจัดซาก ควบคุมหรือกำจัดแมลงภายในโรงเรือน ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรงเรือนสัตว์ปีก แล้วพักการใช้ 21 วันก่อนนำสัตว์ฝูงใหม่เข้ามาเลี้ยง ในฟาร์มไก่พันธุ์ควรเลี้ยงสัตว์เพียง 1 รุ่นอายุและใช้ระบบ all in – all out ควบคุมป้องกันการระบาดของโรคอย่างเข้มงวด และควบคุมคนเข้า-ออกฟาร์ม น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโรคนิวคาสเซิล คือฟอร์มาลิน และ ฟีนอล การให้วัคซินเชื้อเป็นหรือวัคซินชนิดน้ำมันจะสามารถป้องกันความสูญเสียจากโรค วัคซินเชื้อเป็นสเตรน B1 หรือ Lasota ให้ได้โดยวิธีผสมในน้ำดื่ม พ่นที่ฝูงไก่ (coarsespray) หยอดจมูกหรือหยอดตา ไก่ที่สุขภาพแข็งแรงอาจให้วัคซินได้ตั้งแต่อายุ 1 - 4 วัน แต่ทำเมื่ออายุ 2 - 3 สัปดาห์ไปแล้วจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า สำหรับกรณีที่มีการติดเชื้อชนิดอื่นๆ เช่น Mycoplasma ควรใช้วัคซินนิวคาสเซิลเชื้อตายเพื่อป้องกันผลเสียจากวัคซิน
การติดต่อของโรคและแพร่โรค

ส่วนมากไก่ติดโรคทางการการหายใจ น้ำ และอาหาร สัตว์ปีกชนิดอื่นเป็นพาหะนำโรคมาสู่ไก่ เช่น นกกระจอก นกเอี้ยง อีกา ไก่งวง เป็ด ห่าน เป็นต้น เกิดในไก่ทุกอายุ

อาการ

ขึ้นอยู่กับสายพันเชื้อ ชนิดรุนแรงไก่ตายเป็นจำนวนมากทันที เริ่มเป็นโรคจะแสดงอาการทางระบบหายใจ หายใจลำบาก มีเสียงดัง ไอ จาม ซึม เบื่ออาหาร ตัวสกปรก ทวารหนักเปื้อนอุจจาระ กล้ามเนื้อสั่น หัวสั่น คอปิด ปีกตก อัมพาตก่อนตาย เดินโซเซล้มลง ไก่ที่แสดงอาการทางประสาทแล้วจะไม่รอด อัตราการเป็นโรค 60 - 100 เปอร์เซ็นต์ ไก่ที่อดจะแคระแกร็น คอบิด ปีกตกตลอดอายุนิยามในการเฝ้าระวังโรค
1. เกณฑ์ทางคลินิก (Clinical Criteria)
- มีอาการทางระบบหายใจ และ/หรือ ระบบประสาท
- อ้าปากหายใจ ไอ
- ปีกห้อยตก เดินลากขา หัวและคอบิด เดินเป็นวง ซึม ไม่กินอาหาร เป็นอัมพาต
- ไก่ไข่ลดลง หรือ หยุดไข่
- ไข่มีรูปร่างผิดปกติ เปลือกบางหรือหยาบ ไข่ขาวเหลวเป็นน้ำ
- อุจจาระเหลวเป็นน้ำสีเขียว
- มีการบวมที่รอบดวงตา และคอ
- อัตราการเกิดโรคและอัตราตายขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสเตรนเชื้อไวรัส สภาพแวดล้อม และสิ่งแวดล้อม2. เกณฑ์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory criteria)
2.1 วิการ (Lesions)
- มักจะไม่แสดงวิการที่เด่นชัด
- อาจจะต้องตรวจสัตว์จำนวนหลายตัวเพื่อที่จะวินิจฉัยโรคเป็นการชั่วคราวในระยะแรก
- การตรวจยืนยันต้องคอยผลการตรวจแยกเชื้อไวรัส (virus isolation and identification)
- ลักษณะวิการที่อาจตรวจพบได้
- การบวมน้ำภายในเนื้อเยื่อรอบๆ หลอดลมที่คอส่วนใกล้ช่องอก (Thoracic inlet)
- เยื่อเมือกที่บุหลอดลมมีเลือดคั่ง หรือ จุดเลือดออก
- เยื่อเมือกที่บุกระเพาะแท ้(proventriculus) มีเลือดออกเป็นจุด หรือเป็นหย่อมเล็กๆ และจะพบหนาแน่นตรงบริเวณรูเปิดของ mucous glands
- พบ lymphoid tissue ที่เยื่อเมือกบุในผนังลำไส้เล็กบวมน้ำ มีจุดเลือดออก เป็นเนื้อตาย หรือเกิดแผลหลุม
- รังไข่บวมน้ำ มีจุดเลือดออก หรือเสื่อมเล็กลง (degeneration)
2.2 วิธีวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ
- Virus Identification โดยการเก็บอุจจาระ หรือป้ายเชื้อจากหลอดลมและก้น(Tracheal and cloacal swabs)จากสัตว์มีชีวิต หรือรวมชิ้นอวัยวะ และอุจจาระจากไก่ตาย ทำการฉีดเชื้อในไข่ฟักอายุ 9-11 วัน แล้วตรวจหา haemagglutination activity หรือ inhibition of haemagglutination ด้วย ND virus – specific antiserum
- Pathogenicity assessment การประเมินพยาธิสภาพความรุนแรงด้วยวิธี
- Plaque test ใน chicken embryo fibroblast cultures
- หา Mean death time ในไข่ไก่ฟัก (embryonated chicken eggs)
- หาค่า Intracerebral pathogenicity index (ICPI) ในลูกไก่อายุ 1 วัน
- หาค่า Intravenous pathogenicity index (IVPI) ในไก่อายุ 6 สัปดาห์
- Serological tests ด้วยวิธี Haemagglutination inhibition test, ELISA โดยเก็บซีรั่มจากสัตว์ป่วย หรือตัวอย่างเลือดที่แข็งตัว


วิการจากการผ่าซาก

- ชนิดรุนแรง พบจุดเลือดออกที่กระเพาะแท้ กระเพาะบด ผนังลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง
- พบจุดเนื้อตายเล็กๆ กระจายทั่วไปในอวัยวะ เช่น ตับ ม้าม หัว ใจ ฯ
- ชนิดมีอาการทางประสาทอและชนิดรุนแรงปานกลางพบเลือดคั่งและเลือดออกในหลอดลม
ตัวอย่างที่ส่งตรวจ
- ปอด ตับ ม้าม สมอง
- tracheal swab และ cloacal swabการรักษา
- ไม่มียารักษาโดยตรง อาจให้วิตามินและสารอิเลคโตรไลท์ ละลายน้ำให้ไก่กิน ไก่จะฟื้นโรคได้เร็วขึ้น
- ให้ยาปฎิชีวนะ/ซัลฟาละลายน้ำให้กินเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียการป้องกัน
- ดูแลสุขาภิบาลในโรงเรือน
- ควบคุมสัตว์พาหะนำโรค
- เข้มงวดการเคลื่อนย้ายไก่
- ให้วัคซีนตรมกำหนด

การใช้วัคซีนของกรมปศุสัตว์ที่ผลิตโดยสำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์

vac ND lasota วิธีการใช้ วัคซีนนิวคาสเซิลเชื้อเป็น สเตรนลาโซต้า
ไก่เนื้อ ครั้งที่ 1 อายุ 7 - 10 วัน
  ครั้งที่ 2 อายุ 21 วัน
   
ไก่ไข่ ไก่พันธุ์ ไก่พื้นบ้าน ครั้งที่ 1 อายุ 7 - 10 วัน
  ครั้งที่ 2 อายุ 3 สัปดาห์
  ครั้งที่ 3 อายุ 8 สัปดาห์
  ครั้งที่ 4 อายุ 16 สัปดาห์
  ซ้ำทุกๆ 6 - 8 สัปดาห์
   
วัคซีนนิวคาสเซิลเชื้อตาย สเตรนลาโซต้า
ไก่ไข่ ไก่พันธุ์ ไก่พื้นบ้าน อายุ 18 สัปดาห์
  ซ้ำทุกๆ 6 - 8 สัปดาห์
ขนาดฉีด วัคซีนนิวคาสเซิลเชื้อเป็น สเตรนลาโซต้า
   - หยอดตา หรือ จมูก ตัวละ 1 หยด ละลายน้ำ / สเปรย์ / พ่นละออง
วัคซีนนิวคาสเซิลเชื้อตาย สเตรนลาโซต้า
   - ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือ ใต้ผิวหนัง
ความคุ้มโรค ไก่จะมีภูมิคุ้มโรคภายหลังได้รับวัคซีน 8 วันและอยู่ได้นาน 3 เดือน
ขนาดบรรจุ ขวดละ 100 โด๊ส พร้อมน้ำยาละลาย 5 มล.
การเก็บรักษา เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บในช่องแช่แข็ง


ที่มา :
- กลุ่มระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์ สำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
- Reference /แหล่งที่มาข้อมูล : OIE Technical Disease Card (updated : 22.04.2002)
- ทัศนีย์ ชมภูจันทร์, สุรีย์ ธรรมศาสตร์, ปนันท์ ธนเจริญวัชร, จิรา คงครอง และเอกรินทร์ วัฒนพลาชัยกูร (บรรณาธิการ). 2539. คู่มือมาตรฐานการชันสูตรโรคสัตว์. สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ.โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
- สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์ http://www.dld.go.th/biologi/