โรคพยาธิในนกปากห่าง

กลุ่มเชี่ยวชาญเฉพาะสัตว์น้ำ สัตว์ป่า และอื่นๆ : เรื่อง/ภาพ

bird pakhang04  bird pakhang02  bird pakhang01  bird pakhang03

เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ได้รับแจ้งว่า มีนกปากห่างตายเป็นจำนวนมากที่หมู่ 7 และ 8 ตำบลหนองใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพบนกตายในบริเวณที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำและนาข้าว สถาบันสุขภาพสัตว์ฯ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปสอบสวนโรค และเก็บตัวอย่างนกที่ตาย เพื่อนำมาทำการชันสูตรสาเหตุการตายที่ห้องปฏิบัติการของสถาบันสุขภาพสัตว์ฯ ผลการชันสูตรทางพยาธิวิทยาจากการผ่าซากนก 3 ใน 5 ตัว พบสภาพซากทั่วไปผอมแห้ง กล้ามเนื้อบริเวณอกลีบ กล้ามเนื้อบริเวณอื่นสีซีด ที่บริเวณผนังลำไส้เล็กมีเม็ดตุ่ม (nodular ) จำนวนมาก เมื่อทำการชันสูตรทางจุลพยาธิวิทยาพบหย่อมเนื้อตายจำนวนมากตามผนังสำไส้เล็ก และในเม็ดตุ่มที่ผนังลำไส้เล็กพบพยาธิใบไม้ในนกทุกตัว และมีนก 2 ตัวที่พบพยาธิใบไม้ในไตร่วมด้วย ผลการชันสูตรทางไวรัสวิทยาไม่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกจากการแยกเชื้อโดยวิธีฉีดไข่ฟัก ผลการชันสูตรทางแบคทีเรียวิทยาไม่พบเชื้อแบคทีเรียก่อโรค ผลการชันสูตรทางพิษวิทยาและชีวเคมีไม่พบสารพิษ และผลการชันสูตรทางปาราสิตวิทยา พบพยาธิใบไม้ขนาดเล็กอยู่ในเม็ดตุ่มที่ผนังลำไส้เล็กและที่ไต จากการจำแนกชนิดพยาธิพบว่าพยาธิใบไม้ที่ทำให้เกิดเป็นเม็ดตุ่มที่ผนังลำไส้เล็ก คือ พยาธิใบไม้ชื่อ Chaunocephalus ferox ส่วนพยาธิใบไม้ที่พบในไตคือ Renicola spp. แต่ไม่พบพยาธิในเม็ดเลือดจากการทำ stamp smear จากม้าม พยาธิที่พบในเม็ดตุ่มที่ผนังลำไส้เล็กและในไตของนกปากห่าง คือ C. ferox และ Renicola spp. นั้น เป็นพยาธิใบไม้มีวงจรชีวิตที่ระยะตัวอ่อนจะมีการเจริญเติบโตในพาหะกึ่งกลาง (intermediate host) ซึ่งอาจเป็นพวกหอยชนิดต่างๆ ปลา และแมลงบางชนิด และเมื่อตัวอ่อนระยะติดต่อถูกกินโดยสัตว์มีกระดูกสันหลังพยาธิก็จะเจริญเป็นตัวเต็มวัย ตามชนิดของพยาธิ ในกรณีนกปากห่างซึ่งเป็นนกอพยพมาจากประเทศบังคลาเทศและอินเดียนั้น ได้อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง เมษายน เพื่อหาอาหารและขยายพันธุ์ โดยพบว่าอาหารหลักของนกปากห่างคือ หอยโข่ง และหอยเชอรรี่ จากรายงานที่มีการพบพยาธิ C. ferox ที่เป็นพยาธิเม็ดตุ่มในลำไส้เล็กของนกปากห่างที่อาศัยอยู่ที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดปทุมธานี ของ Pilai และคณะ(1992) เชื่อว่าหอยโข่ง ( Pila spp. ) เป็นพาหะกึ่งกลางของพยาธินี้ และยังได้รายงานว่ามีอัตราการตายของนกที่เกิดจากพยาธินี้ถึง 80% แต่นกที่ตายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพบมีประมาณ 5% เนื่องจากมีข้อมูลว่ามีการย้ายถิ่นหากินของนกปากห่าง เพราะการขาดแคลนอาหารในเขตจังหวัดปทุมธานี จึงได้ย้ายถิ่นมาอยู่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังนั้น จึงมีการพบนกปากห่างในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากผลการชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ มีข้อสันนิษฐานสาเหตุการตายของนกปากห่างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดจากพยาธิใบไม้ที่ลำไส้เล็กและไต เพราะพยาธิใบไม้ที่พบจะทำให้เกิดแผลเนื้อตายที่ผนังลำไส้และส่งผลต่อการดูดซึมอาหาร ทำให้ไม่สามารถรับอาหารที่กินได้อีกทั้งยังมีผลลดการเคลื่อนไหวของลำไส้และพยาธิใบไม้ที่ไตก็ยังมีผลต่อระบบไตที่ทำให้เกิดเนื้อตาย ท่อไตขยายใหญ่ และมีการอักเสบ มีรายงานสอดคล้องการพบพยาธิในระบบทางเดินอาหารของพวกนกน้ำนกอพยพในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง เช่น นกเป็ดน้ำหรือนกที่กินหอยโดยพบอัตราการตายค่อนข้างสูง และมีสาเหตุหลักมาจากการติดโรคพยาธิใบไม้ในลำไส้ นอกจากนั้น จากการติดตามรายงานที่มีการศึกษาเกี่ยวกับนกปากห่างในสถาบันต่างๆ พบมีข้อมูลที่สนับสนุนถึงสาเหตุการตายที่พบว่า เกิดจากโรคพยาธิและพบได้เป็นประจำในแต่ละปี ดังนั้น การตายของนกปากห่างในกรณีนี้มีสาเหตุจากพยาธิใบไม้ในลำไส้เล็ก C. ferox และพยาธิใบไม้ไต Renicola spp. และควรมีการศึกษาถึงแนวทางเกี่ยวกับนกปากห่างในด้านเส้นทางอพยพ ปริมาณประชากรนก นิเวศวิทยา โรคที่พบ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ยากำจัดศัตรูพืชในนาข้าวมีผลต่อประชากรนกอพยพ โดยจะได้ประสานงานกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อรวบรวมข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการควบคุมป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดจากนกอพยพเหล่านี้ ทั้งด้านโรคและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขอนามัยของชุมชนนั้น

เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลจากผู้ที่ศึกษานกเหล่านี้ว่า มีการตายของนกจำนวนมากเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่อาหารขาดแคลนที่จะมีผลต่อร่างกายที่อ่อนแอของนก เนื่องมาจากมีพยาธิอยู่แล้ว ดังนั้น การตายจึงมีสาเหตุหลักจากการติดโรคพยาธิเป็นส่วนมาก และในกรณีที่ห้องปฏิบัติการได้ทำการชันสูตรโรคและไม่พบสาเหตุของโรคไข้หวัดนก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนในแง่ของโรคระบาด แต่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมที่นกเหล่านั้นอาศัยอยู่ พยาธิชนิดนี้เป็นเฉพาะในสัตว์ปีกบางชนิดเท่านั้น
[1/05/2549]

image007

การชันสูตรโรคในนกปากห่าง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดย นายสัตวแพทย์เจษฎา รัตโณภาส
กลุ่มพยาธิวิทยา สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ
[1 มิถุนายน 2553 ]

ประวัติ
สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ได้รับตัวอย่าง ซากนกปากห่างจำนวน 5 ตัว เป็นนกที่มีอยู่ในธรรมชาติ ทั้งหมดประมาณ 3,000 ตัว ตายประมาณ 200 - 300 ตัว โดยมีระยะเวลาป่วยจนถึงตายประมาณ 3 - 4 วัน มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงเดิน ซึม และซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดการชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ
ทางสถาบันฯ ได้ดำเนินการผ่าซากและส่งตัวอย่างเพื่อชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ พยาธิวิทยา แบคทีเรียวิทยา พิษวิทยาและชีวเคมี และปรสิตวิทยา ซึ่งสรุปรายงานผลทางห้องปฏิบัติการได้ดังนี้

พยาธิวิทยา
ผลจากการผ่าซากจำนวน 5 ตัว พบว่า ตัวอย่างทั้งหมด สภาพภายนอกซูบผอม มีกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกน้อยมาก (รูปที่ 1) เยื่อเมือกบริเวณตาซีดอย่างเห็นได้ชัด (รูปที่ 2) อวัยวะภายในพบเม็ดตุ่ม (nodule) มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 - 3 เซนติเมตร (รูปที่ 3) โดยมีลักษณะทางจุลพยาธิวิทยาคือ พบพยาธิใบไม้ชนิดนี้ใน granulomatous lesion ที่ผนังของลำไส้เล็ก และมีช่องเปิด (opening) เข้าสู่ lumen ของลำไส้ (รูปที่ 4 ) และยังพบพยาธิใบไม้อีกชนิดที่ไต (Renicola spp.)

image001image002image003image004

     
    

ไวรัสวิทยา
ไม่พบเชื้อไวรัสไข้หวัดนก (HPAI) โดยวิธี real-time PCR และจากการฉีดไข่ฟัก

แบคทีเรียวิทยา

ไม่พบเชื้อแบคทีเรียก่อโรคการเพาะเชื้อ

ปรสิตวิทยา

จากตัวอย่างนกปากห่างทั้งหมด 5 ตัวอย่าง พบพยาธิใบไม้ (trematode) ชนิด   Chaunocephalus ferox   เป็นจำนวนมาก ที่อยู่ภายในเม็ดตุ่มของลำไส้นก (รูปที่ 5) และพบพยาธิใบไม้ชนิด   Renicola spp. ที่ไต

พิษวิทยาและชีวเคมี
จากการตรวจตับและไตทั้ง 5 ตัวไม่พบ organophosphate จากการตรวจโดยวิธี GC/MS และ carbamate จากวิธี GC/MS TLC Spectrophotometer

image005

สรุปผลการชันสูตร
จากประวัติ ผลการผ่าซาก รอยโรคที่พบ และผลทางปรสิตวิทยา สาเหตุที่เป็นไปได้ที่ทำให้นกตายเป็นจำนวนมากคือ ภาวะติดปรสิตเป็นจำนวนมากที่เข้าไปฝังตัวอยู่ที่ผนังลำไส้ ทำให้การเคลื่อนที่ของลำไส้ (movement) เป็นไปได้ยากและผนังลำไส้ถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถดูดซึมอาหารได้ จึงก่อให้เกิดภาวะขาดสารอาหารที่รุนแรง (malnutrition) ตามมา ประกอบกับการเข้าไปติดตามในพื้นที่ พบว่ามีความแห้งแล้ง อาหารที่มีในธรรมชาติมีอยู่อย่างจำกัดและขาดแคลน จึงส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นการป้องกันและรักษา
จากการสืบค้นพบว่ายาที่มีผลในการรักษาพยาธิใบไม้ยังให้ผลจำกัดและผลของการรักษาแม้แต่ในสัตว์ชนิดอื่นก็ตามยังให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ ร่วมกับนกปากห่างเป็นนกอาศัยอยู่ตามธรรมชาติและกินหอยซึ่งเป็นโฮสกึ่งกลางของพยาธิใบไม้ชนิดดังกล่าว ดังนั้นวิธีการให้ยาเพื่อการรักษาหรือจับนกชนิดนี้เพื่อให้ยานั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตามพบว่ายังไม่มีเอกสารทางวิชาการที่ยืนยันถึงการติดพยาธิชนิดนี้ในคน