โรคคริปโตสปอริดิโอซิส (Cryptosporidiosis)
เรียบเรียงโดยสัตวแพทย์หญิงปัจฉิมา อินทรกำแหง (สิงหาคม 2548)
โรคคริปโตสปอริดิโอซิส เป็น โรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัวชนิดหนึ่ง ชื่อ คริปโตสปอริเดียม (cryptosporidium) ซึ่งอยู่ในกลุ่มเชื้อบิด (coccidia) โดยเชื้อระยะที่อยู่ในร่างกายคนหรือสัตว์ มักจะฝังตัวอยู่ในผนังลำไส้ ทำให้มีอาการท้องร่วงคล้ายโรคบิด เชื้อนี้พบเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2450 โดย Tyzzer ตรวจพบที่เยื่อบุกระเพาะอาหารของหนูทดลอง ต่อมาในปี 2519 Nime และคณะรายงานการติดเชื้อในคนเป็นครั้งแรกใน เด็กอายุ 3 ปี โรคคริปโตสปอริดิโอซิส ในสัตว์มักพบเป็นปัญหาในลูกสัตว์เคี้ยวเอื้องที่เกิดใหม่ โดยมี คริปโตสปอริเดียม พาร์วุ่ม (C. parvum) เป็นสาเหตุสำคัญของอาการท้องเสียในลูกโค ลูกแพะ - แกะ ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในสัตว์ปีกพบว่าไก่แสดงอาการของโรคทางระบบหายใจ ส่วนไก่งวงและนกกระทา แสดงอาการของโรคทางเดินอาหาร
ระบาดวิทยา
โรคคริปโตสปอริดิโอซิส พบได้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่มีรายงานพบว่าติดเชื้อหรือเป็นโรคนี้โดยธรรมชาติได้แก่ โค กระบือ แพะ แกะ กวาง ม้า สุกร สุนัข แมว หนูขาว สัตว์ปีก เช่น ไก่ ไก่งวง เป็ด ห่าน รวมทั้งปลา สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ป่า ปัจจุบันได้มีรายงานพบเชื้อนี้ในสัตว์กว่า 79 ชนิด ส่วนใหญ่จะพบในลูกสัตว์หรือสัตว์อายุน้อย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะลูกสัตว์ยังมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำ การแพร่ระบาดของเชื้อ คริปโตสปอริเดียม มักเกิดจากเชื้อผ่านออกมากับอุจจาระแล้วปะปนไปกับน้ำอาหาร แมลงและนกอาจเป็นตัวพาเชื้อจากสัตว์ตัวหนึ่งไปยังสัตว์อีกตัวหนึ่งได้ คนอาจได้รับเชื้อจากการสัมผัสโดยตรงกับคนหรือสัตว์ซึ่งปล่อยเชื้อออกมาในอุจจาระ เช่น เกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อในน้ำประปา แหล่งน้ำสาธารณะที่ใช้อุปโภคบริโภค ในประเทศไทยมีรายงานการตรวจสอบพบเชื้อ คริปโตสปอริเดียม ในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์) ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในภาคกลางระหว่างปี พ.ศ.2531-2536 พบ 22 จาก 250 คน (8.8%) และการศึกษาในผู้ป่วยติดเชื้อโรคเอดส์ อายุตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 65 ปี จำนวน 156 คน ณ โรงพยาบาลแห่งเดียวกันระหว่างเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2544 ตรวจพบถึง 20 คน (12.8 %) ทางด้านปศุสัตว์ของประเทศไทยมีรายงานเกี่ยวกับ คริปโตสปอริเดียม น้อยมาก ในปี 2531 ลัดดา และ สุพจน์ รายงานการพบในห่านโดยสัตว์ไม่แสดงอาการป่วยในปี 2533 สุรีย์และคณะ รายงานการสำรวจจากตัวอย่างอุจจาระของลูกโค-กระบือ อายุระหว่าง 3 วัน - 4 ? เดือน พบ 83 จาก 544 ตัวอย่าง (12.63 %) โดยสัตว์ไม่แสดงอาการท้องเสียอย่างรุนแรง
อาการของโรค
อาการของโรคในคนมีความสัมพันธ์กับภาวะภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันปกติ มักจะไม่มีอาการรุนแรง และหายเองได้ ส่วนผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องมักจะมีอาการรุนแรง เช่น ท้องเสียเฉียบพลัน โดยถ่ายวันหลายครั้งอุจจาระเป็นน้ำมูก บางรายมีอาการปวดท้องคลื่นไส้อาเจียน หรือมีไข้ร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเอดส์หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน จะมีอาการท้องเสียเรื้อรังและรุนแรงถึงแก่ชีวิต อาการในสัตว์ ลูกโค กระบือ มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการจนถึงมีอาการท้องเสียร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ขนหยอง เบื่ออาหาร เป็นไข้ ขาดน้ำ ความรุนแรงของโรคขึ้นกับปริมาณเชื้อที่สัตว์ได้รับ อาการท้องเสียอาจปรากฏอยู่นาน 4 -18 วัน สัตว์ปีกมักแสดงอาการทางระบบหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำมูกใส หายใจลำบาก
การวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัยโรคคริปโตสปอริดิโอซิส อาศัยการตรวจเชื้อโดยตรงจากตัวอย่างอุจจาระของสัตว์ หือคนที่ป่วยโดยใช้สารละลายน้ำตาลเข้มข้น ผสมเพื่อให้เชื้อลอยขึ้นมาแล้วตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์โดยตรง หรือนำมาย้อมด้วยสีก่น เพื่อให้เห็นเชื้อชัดเจนขึ้น รูปร่างของ คริปโตสปอริเดียม พาร์วุ่ม ข้อนข้างกลม ขนาดเล็กมาก (4 -5 ไมครอน ) เมื่อย้อมสีจะเห็นเป็นสีชมพู หรือ แดง
ต่อมามีผู้พัฒนาวิธีการตรวจทางซีรัมวิทยาและปัจจุบันมีการนำเทคนิคทางชีวโมเลกุลมาพัฒนาวิธีการตรวจโรคนี้ ทำให้สามารถวินิจฉัยโรคได้สะดวกรวดเร็วขึ้นถูกต้องแม่นยำกว่าการตรวจเชื้อโดยตรง ถ้าสัตว์โดยมีอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็น โรคคริปโตสปอริดิโอซิส เก็บตัวอย่างกากอาหารในลำไส้ , ชิ้นเนื้อจากส่วนปลายลำไส้เล็ก หรือขูดเยื่อบุผนังลำไส้เพื่อตรวจหาเชื้อ (ซึ่งควรทำโดยเร็วที่สุดหลังจากสัตว์ตาย) แช่เย็น ก่อนส่งห้องปฏิบัติการ กรณีสัตว์ปีกให้เก็บอวัยวะอื่น ๆ เช่น ไต หลอดลมและเบอร์ซ่า แช่ใน 10% ฟอร์มาลิน เพื่อส่งตรวจทางจุลพยาธิวิทยา และจุลทรรศน์อิเล็กตรอน
การควบคุมและป้องกัน
ผู้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วยเลี้ยงดูและรักษาสัตว์ ต้องเดินทางเข้า-ออกในฟาร์มสัตว์ ในชนบท สวนสัตว์ สถานที่ซึ่งมีการระบาดของโรค จะต้องระวังการติดเชื้อจากคนและสัตว์ทั้งโดยการสัมผัสโดยตรงและโดยการปนเปื้อนในน้ำและอาหาร ในสัตว์ยังไม่มียาที่ให้ผลในการรักษาโรคนี้ได้แน่นอน การควบคุมจึงต้องใช้วิธีการจัดการ และสุขาภิบาลที่ดีเป็นหลัก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กรมปศุสัตว์