การดูแลสุขภาพโคนม - การจัดการฟาร์มโคนม

การจัดการฟาร์มโคนมและกำหนดการดูแลสุขภาพโคนม
การจัดการฟาร์มโคนม (ตารางที่ 1) ประกอบด้วย
1. โปรแกรมการถ่ายพยาธิเพื่อควบคุมการระบาดของพยาธิภายใน โดยการตัดวงจรชีวิตของพยาธิ
2. การฉีดวัคซีนป้องกันโรค
3. การจัดฤดูกาลผสมพันธุ์เพื่อให้โคนมมีผลผลิตอย่างสม่ำเสมอ โดยพิจารณาจากข้อมูลทางระบาดวิทยาและฤดูกาลที่โคนมคลอดลูก

ตารางที่ 1 ปฏิทินการจัดการในฟาร์มโคนม

เดือน

แม่โคท้อง

แม่โคท้องว่าง

ลูกโค < 6 เดือน

ลูกโค > 6 เดือน

โคสาว

มกราคม
เริ่มต้นผสมและตรวจท้อง
-
-
-
ตรวจท้อง
กุมภาพันธ์
ตรวจท้อง
ถ่ายพยาธิ
-
-
ตรวจท้อง
มีนาคม
ตรวจท้อง ถ่ายพยาธิ
-

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบรูเซลโลซิส (ลูกโค เพศเมีย อายุ 3-8 เดือน)

ถ่ายพยาธิ
ตรวจท้อง
ถ่ายพยาธิ

เมษายน

xxx
-
-
-
-
พฤษภาคม
ฉีดวัคซีน FMD
ฉีดวัคซีน FMD
-
ฉีดวัคซีน FMD
ฉีดวัคซีน FMD
มิถุนายน
xxx
-
-
-
-
กรกฎาคม
ดราย (หยุดให้นม)
-
-
-
-
สิงหาคม
ถ่ายพยาธิ ดราย (หยุดให้นม)
เริ่มผสม
-
-
-
กันยายน
ถ่ายพยาธิ คลอดลูก
เริ่มผสม ถ่ายพยาธิ
-
ถ่ายพยาธิ
ถ่ายพยาธิ
ตุลาคม
xxx
-
ถ่ายพยาธิเมื่ออายุ 3 สัปดาห์ หลังคลอด
-
เริ่มผสม
พฤศจิกายน

เริ่มต้นผสม (60 วัน หลังคลอด)

-
ถ่ายพยาธิเมื่ออายุ 6 สัปดาห์ หลังคลอด
-
เริ่มผสม
ธันวาคม
เริ่มต้นผสม
-
-
-
เริ่มผสม

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลสุขภาพโคนมก็ควรออกตรวจโคนมตามกำหนดการในตารางที่ 2 เพื่อจะได้ทราบความสมบูรณ์ของแม่โค การให้ผลผลิต สมรรถนะทางระบบสืบพันธุ์ และสภาวะโรคต่างๆ จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดต่อไป

 

ตารางที่ 2

การปฏิบัติ

ระยะเวลา (ความถี่ของการปฏิบัติ)

จุดประสงค์

1. ศึกษาระดับสารอาหาร (Nutrient metabolites) จากซีรั่ม 4 ระยะ (*) แยกตาม ระยะการให้นม
ปีละ 1-2 ครั้ง
ดูระดับการขาดสารอาหารหรือแร่ธาตุสำคัญต่างๆ
ที่มีผลต่อสุขภาพแม่โค
2. ตรวจระบบสืบพันธุ์โดยการตรวจล้วงทาง
ทวารหนัก
หลังคลอดไม่เกิน 45-60 วัน, ต่อไปตรวจตามความจำเป็นจนกว่า
สัตว์จะตั้งท้อง
เพื่อตรวจหาความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ ให้สัตว์ผสมติดไว
(ไม่เกิน 90 วันหลังคลอด) และลดระยะเวลาการให้ลูกตัวใหม่
(ไม่ควรเกิน 380 วัน)
3. ประมาณขนาดแม่โค
เดือนละ 1 ครั้ง
ดูระดับความสมบูรณ์ของแม่โคเพื่อประเมินความสมดุล
ระหว่างปริมาณอาหารที่ได้รับกับผลผลิตที่ให้
4. ตรวจสอบปริมาณน้ำนม

เดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 15 ของแต่ละเดือน

เพื่อดูผลผลิตปริมาณน้ำนมในแม่โคเป็นรายตัว รายฟาร์ม
และกลุ่ม
5. ตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ
ปีละ 1-2 ครั้ง
ดูชนิดพยาธิเพื่อให้สามารถเลือกใช้ยาถ่ายพยาธิได้
อย่างมีประสิทธิภาพ
6. เก็บตัวอย่างอาหารข้น/หยาบ
ประมาณ 3 ครั้ง (ทุกฤดูกาลที่เปลี่ยนไป)
วัดระดับคุณค่าสารอาหารเพื่อนำไปปรับสูตรอาหารให้มี
คุณค่าคงที่หรือเหมาะสมกับปริมาณการให้ผลผลิตของโคนม
7. ทดสอบโรค วัณโรค พาราทูเบอร์คูโลซีส และ บรูเซลโลซิส

ปีละ 1 ครั้ง

เพื่อกำจัดตัวเป็น reactor ออกไปจากฝูงและป้องกันโรคสัตว์
ที่ติดต่อถึงผู้บริโภคผ่านทางน้ำนม
8. ตรวจน้ำนมโดยวิธี ซี.เอ็ม.ที. (CMT)
เดือนละ 1 ครั้ง
เพื่อตรวจหาโคนมที่เป็นโรคเต้านมอักเสบ
ชนิดไม่แสดงอาการ

* 1) ระยะดราย 2) หลังคลอดไม่เกิน 60 วัน 3) 60-150 วันหลังคลอด 4) มากกว่า 150 วัน



ที่มา
ทัศนีย์ ชมภูจันทร์, มนัสนันนท์ ประสิทธิรัตน์ และมนยา เอกทัตร์ (บรรณาธิการ). 2539. คู่มือการดูแลสุขภาพโคนม" สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ. ฟันนี่พับบลิชิ่ง.
ทัศนีย์ ชมภูจันทร์, สุรีย์ ธรรมศาสตร์, ปนันท์ ธนเจริญวัชร, จิรา คงครอง และเอกรินทร์ วัฒนพลาชัยกูร (บรรณาธิการ). 2539. คู่มือมาตรฐานการชันสูตรโรคสัตว์. สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ.โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.